วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551




อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง
เป็นศาสนสถานที่สำคัญมากสมัยลพบุรี อายุประมาณพันปี ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 1,320 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บ้านตาเป็ก ตำบลตาเป็ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ แยกจากทางหลวงสาย 24 เข้าไป 12 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดทางสะดวกและปลอดภัยเป็นศาสนสถานในศาสนามพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย ทางขึ้นสู่ปราสาทปูนหินทรายมีเสานางเรียงประดับสองข้างทางราวบันไดเป็นหินทรายมีพญานาค 5 เศียร บริเวณปราสาทล้อมด้วยระเบียงคตและซุ้มประตู 4 ทิศ ปรางค์ประธานหินทรายสลักลวดลายวิจิตรงดงาม ตั้งตระหง่าอยู่ภายในเคียงข้างด้วยบรรณาลัยศิลาแลงซ้ายขวาและ ปรางค์น้อยตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะสง่าสวยงามเหมือน มีช่างเทวดามาเนรมิตไว้
ข้อมูล pirun.kps.ku.ac.th,www.buriramcity.org

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2551




เมืองพิมาย

ที่ตั้ง
เมืองพิมายตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาห่างจาก ตัวเมืองนครราชสีมา ตามถนนสายมิตรภาพ ระยะทางประมาณ ๕๖ กิโลเมตร สภาพพื้นที่ตัวเมืองมีความอุดมสมบูรณ์มาก มีลำน้ำไหลผ่านหลายสาย คือ แม่น้ำมูล ลำน้ำเค็ม และลำน้ำจักราชสิ่งที่ดึงดูดใจ
เมืองพิมา
ยเป็นเมืองโบราณอันเก่าแก่ มีประวัติการตั้งชุมชนสืบเนื่องกันมายาวนานนับพันปี ในเมือง แห่งนี้จึงมีสิ่งต่าง ๆ ที่น่าสนใจและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นจำนวนมาก โดยเมืองพิมายได้สร้างเมือง ขึ้นตามแบบของอาณาจักรเขมรโบราณ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๘ โดยมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีคูเมือง กำแพงเมืองล้อมรอบ มีซุ้มประตูทางเข้า-ออกเมืองขนาด ใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลงทั้ง ๔ ด้าน แต่ที่ พิเศษกว่าเมืองทั่วไป คือ เมืองพิมายจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพื่อรับกับแนวถนน โบราณจากเมืองพระ นครของอาณาจักรเขมร ตรงกลางเมืองเป็นที่ตั้งปราสาทหินพิมายซึ่งเป็นพุทธสถานในศาสนาพุทธลัทธิมหายาน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในประเทศไทยสร้างด้วยหินทรายสีขาว ตามแบบศิลปะเขมรราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ และรูปแบบปรางค์ประธานของปราสาทหินพิมาย ยังเป็นต้นเค้าของปราสาทนครวัดอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเขมรโบราณอีกด้วย นอกจากนี้แล้วบริเวณเมืองยังมีโบราณสถานน้อยใหญ่ ที่สำคัญอีกหลายแห่ง คือ กุฏิฤาษี อันเป็นโรงพยาบาลโบราณ สร้างตามแบบศิลปะ เขมรอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ท่านางสระผม ซึ่งเป็นท่าน้ำโบราณศิลปะเขมรอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ เมรุพรหมทัต ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ สมัยอยุธยาตอนปลาย ตลอดจนสระน้ำ โบราณอันเก่าแก่อีกหลายแห่งด้วยกัน เป็นต้น และก่อนการตั้งเมืองพิมายยังพบว่าบริเวณเมืองแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งชุมชนโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย มีอายุราว๒,๒๐๐ ปีมาแล้ว
ศักยภาพในการท่องเที่ยว
เมืองพิมายโบราณ เป็นเมืองที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวที่สูงมาก โดยเฉพาะในด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ด้วยตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าวกรมศิลปากรได้ยกฐานะเมืองโบราณแห่งนี้เป็นอุทยาน ประวัติศาสตร์พิมาย เพื่อดำเนิน การรับผิดชอบให้เน้นการทำการศึกษาพัฒนาดูแลส่งเสริมการท่องเที่ยวของ เมืองพิมายโบราณแห่งนี้ และในขณะนี้ก็อยู่ระหว่าง การดำเนินการในเมืองพิมายโบราณหรืออุทยานประวัติ ศาสตร์แห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลก นอกจากนี้แล้วภายในเมืองพิมายยัง มีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมายและไทรงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกด้วย
ข้อมูล kanchanapisek.or.th


ภูกระดึง



อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อยู่ในท้องที่อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ประกอบด้วยภูเขา ที่มีธรรมชาติอันสวยสดงดงาม ที่ราบบนยอดภูกระดึงมีสังคมพืชเป็นสังคมของพืชเมืองหนาว ได้แก่ ป่าสนสองใบ ป่าสนสามใบ ป่าต้นเมเปิล (ไฟเดือนห้า) และพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม เช่น กุหลาบป่า ม้าวิ่ง เอื้องคำหิน ดอกม่วนดักหงาย เป็นต้น ตลอดจนมีธรรมชาติ บรรยากาศ และทิวทัศน์ที่สวยงามหลายแห่ง มีเนื้อที่ประมาณ 348.12 ตารางกิโลเมตร หรือ 217,576.25 ไร่
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพทั่วไปของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นภูเขาหินทรายที่มีพื้นที่ราบบนยอดเขากว้างใหญ่สลับกับเนินเตี้ย ๆ ยอดสูงสุดคือ ภูกุ่มข้าว สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,350 เมตร เป็นแหล่งกำเนิดของลำน้ำพอง ซึ่งหล่อเลี้ยงเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนหนองหวาย ในจังหวัดขอนแก่น ยอดภูกระดึงประกอบไปด้วยป่าสนสลับป่าก่อและทุ่งหญ้า มีพันธุ์ไม้ดอก ไม้ใบ ขึ้นอยู่ทั่วไปตามบริเวณน้ำตก ลำธาร และลานหิน ซึ่งธรรมชาติได้สร้างสรรค์ไว้อย่างสวยงามยิ่ง
ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพอากาศบนภูกระดึงเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นมากจนบางครั้งอุณหภูมิลดต่ำลงถึง 0 องศาเซลเซียส ช่วงฤดูฝนอากาศแปรปรวน บ่อยครั้งมีหมอกและเมฆฝนลอยต่ำ ฝนตกชุกทำให้เกิดภัยธรรมชาติบางประการ เช่น ดินถล่มตามลาดหน้าผาสูงชัน และน้ำป่าไหลรุนแรงตามลำธารเชิงเขา จึงกำหนดให้ปิด-เปิดการท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และให้สภาพป่ามีการพักฟื้น หลังจากนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมอย่างมากในแต่ละปี ดังนี้
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีหลายชนิด เช่น ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบเขา และป่าสนเขา มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ได้แก่ เต็ง รัง พลวง แดง มะค่า ยมหอม มะเกลือ ตะแบก สมอ รกฟ้า พญาไม้ สนสามพันปี จำปีป่า ทะโล้ เมเปิ้ล สนสองใบ และสนสามใบ ก่อชนิดต่าง ๆ ใน ทุ่งหญ้ามีพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม ออกดอกบานสะพรั่งสลับกันไปตามฤดูกาล เช่น กุหลาบป่า เทียนน้ำ มณเฑียนทอง แววมยุรา กระดุมเงิน เทียมภู ส้มแปะ เง่าน้ำทิพย์ ดาวเรืองภู หยาดน้ำค้าง และกล้วยไม้ ซึ่งบางชนิดชอบขึ้นตามลานหิน ได้แก่ ม้าวิ่ง เอื้องคำหิน ส่วนไม้พื้นล่างมีเฟิร์น มอส โดยเฉพาะ ข้าวตอกฤาษี ซึ่งเป็นมอสขนาดใหญ่สวยงามที่สุดและมีอยู่เป็นจำนวนมาก
ภูกระดึงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุมเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศประกอบไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าและลำธาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าภูกระดึงมีหลายชนิด เช่น ช้าง เสือโคร่ง หมีควาย เลียงผา เก้ง กวาง หมูป่า ชะนี บ่าง พญากระรอก หมาไน ส่วนนกชนิดต่าง ๆ ที่พบเห็นได้แก่ นกกางเขนดง นกจาบกินอกลาย นกกระทาทุ่ง นกพญาไฟใหญ่ นกขมิ้นดง และมีเต่าชนิดหนึ่งซึ่งหาได้ยาก คือ เต่าปูลู หรือ “เต่าหาง” เป็นเต่าที่หางยาว อาศัยอยู่ตามลำธารในป่าเขาระดับสูงของประเทศไทย กัมพูชา และ ลาว